JangD.com : ค่าส่งแแห่นำเข้าสินค้าแทนผลิต,

จ้างดี .com,jangd .com,ขนส่ง บริษัท,รถยนต์6ล้อ,ร ถ,รถ4ล้อ,รับขนส่ง,รถรับจ้าง,ขนส่งรถยนต์,มี รถ ตู้,จองทะเบียนรถ กรมการขนส่งทางบก,ทะเบียนรถ ขนส่ง,ขนส่ง ทะเบียนรถ,หา รถ ส่ง สินค้า,รถขนส่งสินค้า,บริษัท บริการ ส่ง ของ,บริการขนส่งสินค้า,ตู้ทึบ,กรมขนส่งทางบก ทะเบียนรถ

Custom Search

จ้างดี *** ค่าส่งแแห่นำเข้าสินค้าแทนผลิต

ค่าส่งแแห่นำเข้าสินค้าแทนผลิต
24 Jan 13 , ฐานเศรษฐกิจ

ธุรกิจปรับตัวรับ "บาทแข็ง-ค่าจ้าง 300 บ." กลุ่มค้าส่งเสื้อผ้า ของเล่น รองเท้า เกรย์มาร์เก็ตรถยนต์ ส่งสัญญาณแห่นำเข้าสินค้าจากตปท. "จีน"ส้มหล่น เป็นแหล่งนำเข้ามากสุด   ด้านกลุ่มรถยนต์ หวั่นบาทแข็งกระทบขีดแข่งขัน ร้องรัฐดูแลเป็นพิเศษ

"โตโยต้า"มั่นใจส่งออกปีนี้แตะ 4 แสนคัน ผู้ว่าการธปท."ประสาร" ย้ำพร้อมใช้มาตรการแทรกแซงค่าเงินตามความเหมาะสม   ชี้บาทแข็งค่า ยังสอดคล้องกับค่าเงินภูมิภาค

ปัญหาของผู้ประกอบการส่งออกไทย ที่กำลังเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้น จากผลพวงการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา และค่าเงินบาทที่ปรับแข็งค่ามากสุดรอบ 17 เดือนที่ระดับ 29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสขณะนี้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เพราะเมื่อจ่ายเป็นสกุลเงินดอลล์มีต้นทุนถูกลง

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า จาก 2 ปัจจัยหลักข้างต้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าส่งและค้าปลีกเสื้อผ้าสำเร็จรูปย่านตลาดสำคัญ ทั้งโบ๊เบ๊ ใบหยก ประตูน้ำ ปีนี้คาดว่าจะหันไปนำเข้าเสื้อผ้า และเครื่องนุ่งห่มจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะเทียบแล้วต้นทุนจะถูกกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศ โดยแหล่งผลิต
ใหญ่ที่นำเข้ามากสุดก็คือประเทศจีน ซึ่งเป็นสัดส่วนตลาดเสื้อผ้ารายใหญ่สุดของโลกกว่า 28%

"การสั่งนำเข้าเป็นผลจากโรงงานการ์เมนต์ในประเทศ แบกรับภาระต้นทุนไม่ไหว และค่อยๆ ล้มหายตายจาก จึงต้องหันไปนำเข้าจากจีนซึ่งถือเป็นทางออก ทั้งยังสามารถสั่งซื้อได้ไม่จำกัดจำนวน คาดปีนี้กลุ่มผู้ค้าดังกล่าวข้างต้น จะเพิ่มสัดส่วนการนำเข้าเป็นประมาณ 80% จากปีที่แล้วที่มีสัดส่วน 60%"

ส่วนผู้ประกอบการสินค้าแบรนด์ ซึ่งสามารถกำหนดราคาขายเองได้ แม้จะยังพอไปได้จากการเพิ่มมูลค่าสินค้าทั้งแบบดีไซน์ และการตัดเย็บ แต่ผู้ผลิตรายใหญ่เหล่านี้จะปรับตัว โดยหันมาผลิตสินค้าเองมากขึ้นแทนการใช้จากโรงงานซับคอนแทร็กต์ ที่อาจต้องปิดตัวเพราะพิษจากต้นทุนค่าแรง 300 บาท อีกทั้งการจ้างโรงงานซับคอนแทร็กต์ที่นับเป็นรายชิ้นจะมีต้นทุนที่สูงกว่า

ด้านนายคมสรรค์ วิจิตรวิกรม อุปนายกสมาคมชาวโบ๊เบ๊ กล่าวยอมรับว่าผลกระทบที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ค้าบางส่วนย่านโบ๊เบ๊หันไปนำเข้าสินค้ามากขึ้นแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ส่วนกลุ่มค้าส่งเสื้อผ้าที่มีโรงงานผลิตเอง มีดีไซน์และเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม ยังกระทบไม่มาก โดยเฉพาะหากรัฐบาลมีการโปรโมตการท่องเที่ยวให้ ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายและช่วยลดผลกระ
ทบได้มาก

สอดคล้องกับนายสมศักดิ์ ศรีสุภรวาณิชย์ ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมอุตสาหกรรมทอผ้าไทย กล่าวว่า การนำเข้าสิ่งทอจากต่างประเทศโดยเฉพาะผ้าผืนจากจีน ปีนี้จะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเพราะราคาจะถูกกว่าที่ผลิตในประเทศ แต่เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งออกมาตรฐานสินค้าเพื่อกีดกันสินค้าด้อยคุณภาพนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะเดียวกันเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมไทยอยู่รอด อยากขอให้ผู้ประกอบการสิ่งทอที่มีแผนนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ส่งรายละเอียดสินค้าที่ต้องการนำเข้า มายังสหพันธ์ฯ เพราะ
หากในไทยสามารถผลิตได้ในเงื่อนไขเดียวกัน ก็ขอให้ใช้สินค้าในประเทศไปก่อน

ด้านนายธำรง ธิติประเสริฐ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้า ส.อ.ท. กล่าวว่าเงินบาทที่แข็งค่ากระทบต่อการส่งออก มากกว่าผลกระทบจากค่าแรง 300 บาท/วัน   ซึ่งประโยชน์ในการนำเข้าช่วงนี้ จะเป็นโอกาสสำหรับสินค้าราคาถูกประเภทรองเท้าแตะ และรองเท้าลำลองจากจีนและเวียดนามมากกว่า แต่ในส่วนของโรงงานขนาดใหญ่ ผลิตรองเท้าที่มีราคา คาดยังปรับตัวได้ไม่ต่างกับอุตสาหกรรมของเล่นไทย นางสาวดวงใจ คูห์ศรีวินิจ กรรมการกิตติมศักดิ์ และอดีตนายกสมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย กล่าวว่า ทั้ง 2 ปัจจัยหลักข้างต้น ทำให้ผู้ประกอบการของเล่นในประเทศต้องปรับตัว หันไปนำเข้าวัตถุดิบ และสินค้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศในปีนี้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเข้าสินค้าจากจีน รวมถึงการเอาต์ซอร์ซ ทั้งนี้คาดว่าส่งออกของเล่นในปีที่ผ่านมา จะขยายตัว 1-2% แต่ปีนี้ยังไม่ตั้งเป้า โดยอยู่ในช่วงออกงานแฟร์ในต่างประเทศ และรับออร์เดอร์ ซึ่งคงต้องปรับใหม่

ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า เงินบาทที่แข็งค่า อาจทำให้ประเทศไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน เพราะที่ผ่านมาหลายประเทศเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยเพราะว่าค่าเงินในบ้านของเขาแข็ง แต่หากค่าเงินบาทยังแข็งอยู่แบบนี้ จะทำให้ประเทศที่จะเข้ามาลงทุนเกิดการลังเลใจแล้ว

หันไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านแทน ดังนั้นจึงอยากให้ทางการออกมาตรการเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว

นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ   บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยลบที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในปีนี้คือ เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว จากปัญหาวิกฤติการเงินในยุโรป และปัจจัยเสี่ยงจากค่าเงินบาทแข็งค่า

อย่างไรก็ตาม   คาดไทยจะมียอดการผลิตรถยนต์ในปีนี้ 2.4 ล้านคัน จำนวนนี้ เป็นยอดขายรถยนต์ภายในประเทศประมาณ 1.2 ล้านคันหรือลดลง10 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของโตโยต้าคาดว่าจะมียอดขายภายในประเทศ 5 แสนคันและส่งออกไปต่างประเทศ ประมาณ 4 แสนคัน

"เงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลให้การจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์นำเข้า 2-3 หมื่นรายการ จำต้องประสานงานซัพพลายเออร์ในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมทั้งสองฝ่าย เช่นเดียวกับการปรับค่าจ้าง 300 บาท ซึ่งทางโตโยต้าได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่กลางปี 2555 และยังประสานกับซัพพลายเออร์ให้ปรับค่าแรงขึ้นตามกฎหมายที่กำหนด

พร้อมหันมาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตมาชดเชย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะมากขึ้น รวมทั้งการนำเครื่องจักรใหม่มาทดแทนในการผลิต ขณะที่โตโยต้าจะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในสายการผลิต เช่นจากเดิม รถ 1 คัน จะใช้เวลาในสายการผลิต 1 นาที   ก็ปรับให้ผลิตเร็วขึ้นเป็น 1 คัน ใช้เวลาเพียง 55 วินาที"

อย่างไรก็ดี แม้เงินบาทแข็งค่าจะกระทบกับการส่งออก แต่ส่งผลดีต่อการนำเข้ารถยนต์ของผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ หรือที่เรียกกันว่า เกรย์มาร์เก็ต โดยนางอัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระรายใหญ่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการขายรถญี่ปุ่น 60% และรถยุโรป 40% แต่จากปัจจัยค่าเงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯลง 10% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้ตลาดนำเข้าได้รับอานิสงส์ การซื้อขายรถเป็นไปอย่างคึกคัก มีการออกแคมเปญหรือกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้าที่จะซื้อรถ

สอดคล้องกับนายชนาสิน บำรุงชน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เกรย์มาร์เก็ตรายใหญ่ เปิดเผยว่า แนวโน้มของรถนำเข้าแบรนด์ญี่ปุ่นในปีนี้ค่อนข้างดี เนื่องจากมีรถใหม่หลายรุ่นที่จะเปิดตัวสู่ตลาด ประกอบกับปัจจัยค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลงส่งผลดี โดยคาดว่าปีนี้สัดส่วนการนำเข้าและการขายรถญี่ปุ่นจะเทียบเท่ากับรถยุโรป หรือ 50 : 50 เทียบจากยอดขายเดิม ซึ่งเป็นสัดส่วนรถยุโรป และรถญี่ปุ่นที่ 60 : 40

ส่วนมาตรการดูแลผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่านั้น นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับแข็งค่าต่อเนื่อง โดยเทียบระยะสั้นเงินบาทอาจแข็งค่ามากกว่า แต่เทียบตลอดทั้งปี เงินบาทแข็งค่าขึ้นระดับ 3% ถือว่าน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อาทิเงินริงกิตของมาเลเซียที่แข็งค่า 5-6% เปโซของฟิลิปปินส์แข็งค่า 6% เงินวอนของเกาหลีใต้ 7%

"การดูแลอัตราแลกเปลี่ยน เป็นนโยบายหลักของธปท.ที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวและดูแลอย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าปัจจุบันธปท.มีเครื่องมือใช้ตามความเหมาะสม และไม่ลังเลหากจำเป็นต้องนำออกมาใช้ เช่น การสนับสนุนเงินทุนออกไปลงทุนต่างประเทศ นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความยืดหยุ่น หรือมาตรการป้องปรามหากพบว่ามีเจตนาชี้นำตลาด นอกจากนี้ธปท. จะไม่นำผลขาดทุนจากการแทรกแซง มาเป็นอุปสรรคในการดูแลค่าเงินบาท "ผู้ว่าการธปท. กล่าวและว่า ในส่วนปัญหาสภาพคล่องที่กระจายอยู่ทั่วโลกขณะนี้ เป็นปัจจัยที่ไม่สามารถกำหนดทิศทางได้ แต่ที่ผ่านมามีผู้บริหารในสหรัฐฯ เริ่มกล่าวถึงการใช้มาตรการการเงินที่ผ่อนคลายมากเกินไป อาจนำไปสู่ต้นทุนทางเศรษฐกิจ จึงเป็นสัญญาณที่ดีว่ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ที่น่าจะมีวันสิ้นสุด

ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น อัดฉีดเงินเข้าระบบอีกระลอก เป็นเรื่องที่ธปท.จะต้องสร้างภูมิคุ้มกันและไม่ควรใช้เครื่องมือที่ผิดจังหวะ เพราะจะเกิดการสร้างต้นทุนที่ไม่จำเป็น

Post date : 2013-02-07 09:50:44
ข้อมูลอ้างอิง : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
Keyword,Tags : จ้างดี .com,jangd .com,รถรับจ้าง,รถรับจ้างขนของ,
PostBy : JangD.com
แสดงความคิดเห็น 0 / อ่าน 2805

Comment

ชื่อ หรือ e-mail

ความคิดเห็น

ข่าวงานขนส่ง

เกรย์มาร์เก็ตยิ้มรับเยนอ่อน